เมื่อเวลา 03.45 น. วันที่ 20 เม.ย. พล.ต.ต. แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ รอง ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช ผกก.2 บก.ปส.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปส.1 จำนวน 70 นาย เข้าตรวจค้นจับกุมการกระทำผิดกฎหมายที่ "ฟูลมูน ผับ" ถ.เพชรเกษม ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม หลังได้รับการร้องเรียนว่าผับดังกล่าวเปิดเกินเวลา และมีเยาวชนเข้าไปใช้บริการ ที่สำคัญ ผับแห่งนี้ยังเป็นสถานที่เที่ยวของสาววัยรุ่นที่ไปเต้นเปลือยอกโชว์ในช่วงวันสงกรานต์ที่ถ.สีลมอีกด้วย จากการตรวจค้นผับดังกล่าวพบนักเที่ยวชายหญิง อายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวนกว่า 200 คน มั่วสุมอยู่ในนั้น จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะ นอกจากนี้ ยังจับกุมการพนันกำถั่วที่เปิดเล่นกันด้านหลังผับได้ผู้ต้องหาชาย-หญิง 20 ราย นำตัวส่งสภ.โพธิ์แก้วเจ้าของท้องที่ดำเนินคดี
พล.ต.ต.แสงสูรย์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีประชาชนร้องเรียนนายกรัฐมน ตรี เรื่องการเปิดสถานบริการเกินเวลา และมีเยาวชนเข้าไปใช้บริการ รวมทั้งมีการเสพยาเสพติด เต้นโชว์เปลือยในผับแห่งนี้ จึงมีคำสั่งการลงมาตามลำดับชั้น ตั้งแต่ผบ.ตร.มาถึงผบช.ปส. จากนั้นตนจึงสั่งการให้สายสืบออกตรวจสอบหาข่าวตามสถานบริการต่างๆ จนพบว่า "ฟูลมูนผับ" มีการเปิดเกินเวลา มีเยาวชนที่อายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปใช้บริการ และมีการเสพยาเสพติดกันด้วย เปิดให้บริการมาปีกว่าแล้ว จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุม พบนักเที่ยวหญิง-ชาย กว่า 200 คน ที่อายุไม่ถึง 20 ปี และเปิดบริการเกินเวลาที่กำหนดจริง จึงนำเด็กไปตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ส่วนยาเสพติดไม่พบขณะเข้าตรวจค้น และขณะเข้าตรวจค้นก็ไม่พบเจ้าของหรือผู้ดูแลแต่อย่างใด
พล.ต.ต.แสงสูรย์กล่าวอีกว่า จากการสอบ สวนพนักงานในร้านให้การว่า ตามปกติแล้วผับแห่งนี้จะปิดเวลาตี 3 หรือตี 3 ครึ่ง แต่ถ้าเป็นวันศุกร์-เสาร์ จะเปิดถึงตี 4 ครึ่ง วันธรรมดาผู้หญิงเข้าฟรีจะไม่มีการตรวจบัตรประชาชน แต่ถ้าเป็นวันศุกร์-เสาร์ จึงจะมีการตรวจบัตร ซึ่งในร้านจะมีนักเที่ยวชอบขึ้นไปเต้นโชว์เปลือยเป็นประจำ ซึ่งเด็กสาวที่ไปเต้นโชว์เปลือยหน้าออกที่ถ.สีลมในช่วงวันสงกรานต์ ก็เต้นอยู่ที่ผับแห่งนี้ ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบุกตรวจผับ เด็กสาวคนดังกล่าวก็มานั่งดื่มเหล้าที่ผับแห่งนี้ แต่ไม่ได้ขึ้นเต้นโชว์ และกลับออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงไม่นาน
ด้านพล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภาค 7 กล่าวภายหลังการบุกตรวจผับ "ฟูลมูน ผับ" ว่า สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากพบว่าตำรวจท้องที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือปล่อยปละละเลยในเรื่องของการเปิดสถานบันเทิงเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และปล่อยให้เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาใช้บริการ รวมถึงเรื่องการเปิดให้มีการเล่นการพนันอย่างผิดกฎหมาย ผู้กำกับการสภ.โพธิ์แก้ว ในฐานะหัวหน้าโรงพัก จะต้องรับผิดชอบ ส่วนเรื่องโพยการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 20 นาย วันละ 500 บาทนั้น ก็ต้องเป็นเรื่องของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ถ้ายืนยันได้ว่าเจ้าหน้าที่ดังกล่าวมีการรับเงินจริง ก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด
"เบื้องต้นผมมีคำสั่งให้พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว มาช่วยราชการที่บช.ภ. 7 เป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. เป็นต้นไป แล้วมีคำสั่งให้พ.ต.อ.กฤษณะ แจ่มสว่าง รอง ผบก.จว.นครปฐม ทำหน้าที่รักษาการแทน" พล.ต.ท.พงษ์สันต์กล่าว
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีกรณีมีหญิงสาวเปลือยอกและเต้นด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสมบริเวณถนนสีลมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ออกมาระบุว่าเคยไปเต้นเปลือยอกที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เพื่อแลกกับการได้ดื่มสุรา ก่อนที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจสอบและพบว่า มีเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี เข้ามาใช้บริการสถานบันเทิงดังกล่าวจำนวนมาก รวมทั้งยังมีสถานบริการหลายแห่งปล่อยให้มีการเสพและจำหน่ายยาเสพติด ประกอบกับขณะนี้มีการเปิดให้เล่นการพนัน ตู้ม้า ตู้เกมไฟฟ้า ซึ่งเป็นการมอมเมาเยาวชน ทางพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. จึงมีคำสั่งตร.ที่ 0007.22/1596 เรื่องกำชับการกวดขัน จับกุมสถานบริการและแหล่งอบายมุขที่กระทำผิดกฎหมาย ลงวันที่ 20 เม.ย. ถึง รองผบ.ตร.และที่ปรึกษา(สบ10) ที่รับผิดชอบหน้างานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ผู้ช่วยผบ.ตร. ด้านปป. รองจเรตำรวจแห่งชาติ ผบช.น. ผบช.ภ.1-9 ผบช.ศปก.ตร. ผบช.ก. ผบช.ส. ผบช.ปส. และ หัวหน้าจเรตำรวจ โดยมีรายละเอียดว่า ให้เข้มงวดกับการจัดระเบียบสังคมและแหล่งอบายมุขที่ผิดกฎหมาย โดยเน้นดำเนินการกับสถานที่ที่เป็นแหล่งเพาะอาชญากรรม อันได้แก่ บ่อนการพนัน โต๊ะสนุ้กเกอร์ ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ตและแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น
นอกจากนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาของหน่วยระดับ บช. บก. สน.และสภ. ต้องให้ความสำคัญ รวมทั้งกวดขัน ควบคุมและตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาและหน่วยที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมทั้งให้พิจาร ณาลงโทษอย่างจริงจัง ทั้งทางวินัยและทางอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดหรือปล่อยปละละเลย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทุกราย
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ภายหลังเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของตำรวจต้องมีการปรับเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด โดยเน้นย้ำป้องกันปราบปรามการเข้าไปมีส่วนร่วมของข้าราชการตำรวจ ซึ่งตนเป็นห่วงและยอมไม่ได้ในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ที่มุ่งเน้นปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจนจับกุมถึง 5 ราย โดยจะอยู่ในหลายพื้นที่ทั้ง บช.ภ.8 และบช.ภ.4 ซึ่งหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องบูรณาการกำลังและการปฏิบัติงานอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันปราบปรามยาเสพติด ซึ่งในส่วนของตำรวจนั้นเดิมมีชุดทำงานด้านปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศประมาณ 9,000 นาย ซึ่งชุดนี้จะทำทุกอย่างตั้งแต่ปราบปรามยาเสพติดไปถึงการปราบจลาจล ทำให้กำลังตรงนี้อ่อนล้า การปฏิบัติงานจึงไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร แต่หลังจากนี้รัฐบาลปรับโครงสร้างใหม่ โดยดึงเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดมาร่วมกับตำรวจด้วย ซึ่งจะจัดเป็นชุดปราบปรามยาเสพติดของแต่ละอำเภอ โดยเบื้องต้นจะให้ผู้กำกับสถานีตำรวจเป็นหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดของอำเภอ ทั้งนี้ จะมีการแถลงความชัดเจนเรื่องโครงสร้างชุดปฏิบัติงานในที่ 22 เม.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการทำงานให้ได้ผลต้องมุ่งเน้นการป้องกัน โดยตำรวจจะผลักดันโครงการครูแดร์ ซึ่งจะมุ่งเน้นให้ความรู้เรื่องการป้องกันยาเสพติดในโรงเรียนและให้ดำเนินการจริงจัง ซึ่งโครงการนี้จะขับเคลื่อนได้ต้องได้รับการสนับสนุนงบประมาณด้วย
ที่รัฐสภา นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และน.ส. จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อพล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอบคุณภาครัฐที่ร่วมรณรงค์ทำให้อุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ลดลง พร้อมทั้งเสนอมาตรการเพิ่มเติม 5 ข้อเพื่อลดปัญหาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยพล.ต.สนั่นรับที่จะนำกลับไปพิจารณา
น.ส.จิราภรณ์กล่าวว่า การเล่นน้ำสงกรานต์ที่ไม่ปลอดภัย ยั่วยุ อนาจาร ตามที่เป็นข่าวโดยเฉพาะถนนสีลมที่มีวัยรุ่นหญิง 3 คน เลยเถิดถึงขั้นอนาจารและเต้นโชว์อก เป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจ เพราะทำลายวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทยให้เสื่อมไป จึงอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจริงจังในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมกับควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะต้องมีการออกมาตรการห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ในสถานที่เล่นน้ำและบริเวณใกล้เคียง เพื่อลดปัญ หาอุบัติเหตุและการทะเลาะวิวาท นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้อุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ มีจิตสำนึกเห็นแก่เด็กและเยาวชน ไม่ทำการตลาดแบบเซ็กซี่มาร์เก็ตติ้ง เพราะจะนำไปสู่การเลียนแบบของเด็ก แม้จะกระตุ้นยอดขายได้แต่ความเจ็บปวด ความสูญเสียก็จะเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน
ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อขอสัมภาษณ์พ.ต.อ.ภาส กร กลั่นหวาน ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว ถึงกรณีบุกทลายผับในพื้นที่ โดย พ.ต.อ.ภาสกรกล่าวว่า กรณีจ่ายเงินให้ตำรวจรายละ 500 บาท ยืนยันไม่มีเด็ดขาด เพราะเราไม่มีนโยบายแบบนี้ อาจเป็นการจ่ายเงินให้พวกที่มาเฝ้าประตู ซึ่งจะต้องจ้างเป็นกรณีพิเศษ เพราะต้องมีการตรวจอาวุธ ตรวจบัตร และป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนการดำเนินคดีได้เปรียบเทียบปรับผู้ที่ไม่พกบัตรประจำตัวประชาชนไปแล้ว 94 คน คน ละ 50 บาท ส่วนที่อายุต่ำกว่า 15 ปี กว่า 200 คน ได้เชิญผู้ปกครองมารับกลับบ้านและทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ทั้งหมดจับตรวจปัสสาวะพบมีสีม่วง 7 ราย อายุ 14 ปี 1 ราย อายุ 16 ปี 4 ราย อายุ 25 ปี 1 ราย และอายุ 35 ปี 1 ราย ทั้งหมดให้การรับสารภาพเสพยาบ้าจากที่อื่นก่อนเข้ามาเที่ยวในผับดังกล่าว ซึ่งก็ได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 หรือยาบ้า ส่วนเจ้าของยังไม่แสดงตัว มี น.ส.นันทวัน หรุ่มวิสัย อายุ 34 ปี นครปฐม อยู่บ้านเลขที่ 4/7 หมู่ 8 แขวงและเขตประเวศ กทม. รับเป็นผู้จัดการดูแล จึงได้ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาฐานเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายหรือให้สุราหรือบุหรี่ หรือส่งเสริม สิ่งเสพติดให้โทษอื่นแก่เด็ก หรือชักจูงให้เด็กดื่มสุราหรือสิ่งเสพติดให้โทษอื่นใด บังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะกระทำให้เด็กประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด และยินยอมให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งไม่ใช่พนักงานเข้าไปใช้บริการ และไม่ตรวจบัตรประชาชน หรือเอกสารทางราชการแก่ผู้ที่มาใช้บริการ
พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ภ.จว.นครปฐม กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ไม่มีตำรวจเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ 500 บาทต่อวัน แต่หากพบหลักฐานมีการเรียกรับประ โยชน์ ก็จะต้องว่ากันไปตามกฎหมายโดยไม่มีละเว้น และได้มีคำสั่งย้ายนายตำรวจชั้น รอง ผกก.ป. รอง ผกก.สส. สวป. สว.สส. ที่เข้าเวรไปช่วยราชการที่ภ.จว.นครฐม โดยไม่มีกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผับดังกล่าวมีหุ้นส่วนเป็นนักการเมืองคนหนึ่งร่วมอยู่ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น